ค้าภายใน สั่งห้างตรึงราคาหมู ต้องแจ้งก่อนขึ้นราคา ชี้ราคาพุ่งสามชั้น 190 เนื้อสัน กก. 160 หลังหน้าร้อนผลผลิตลด ต้นทุนพุ่ง ด้านไข่ไก่ ยังปริมาณเพียงพอ

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผย กรมได้ติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมู และไข่ไก่ ช่วงฤดูร้อนอย่างใกล้ชิด ทั้งระดับค้าส่งและค้าปลีกเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน โดยในการหารือร่วมกับกรมปศุสัตว์และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พบว่าปริมาณสุกรออกสู่ตลาดลดลง โดยออกสู่ตลาดเฉลี่ยวัน 60,000 ตัว แต่ยังคงเพียงพอต่อการบริโภค โดยสาเหตุหลักที่ทำให้สุกรออกสู่ตลาดลดลง มาจากสภาพอากาศร้อนจัดตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ส่งผลให้สุกรโตช้า น้ำหนักเฉลี่ยก่อนเข้าฆ่าลดลง

นอกจากนี้ เกษตรกรยังต้องรับภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า โดยราคาประกาศสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มล่าสุดยังทรงตัวที่ 88 บาท และแนวโน้มจะยังคงทรงตัวต่ออีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้ประชุมร่วมกับห้างค้าส่งค้าปลีก ให้ตรึงราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ หากจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น จะต้องแจ้งให้กรมฯ ทราบล่วงหน้า เพื่อที่กรมฯ จะได้เข้าหารือและเจรจากับผู้ผลิตรายใหญ่ ควบคุมต้นทุนไม่ให้กระทบผู้บริโภค นอกจากนี้ กรมฯ จะจัดจำหน่ายเนื้อสุกรราคาถูกในงานธงฟ้าราคาประหยัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจราคาเนื้อหมูตลาดสี่มุมเมือง พบว่า หมูสามชั้นขึ้นไป กก.ละ 190 บาท เนื้อหมูสันในสันนอก 165 บาท หมูเนื้อแดง 150 บาท

นายวิทยากร กล่าวว่า การดูแลราคาไข่ไก่ จากการหารือร่วมกับกรมปศุสัตว์และองค์กรผู้เลี้ยงไก่ไข่ พบว่าปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาด 44.52 ล้านฟองต่อวัน เพียงพอต่อการบริโภคที่เฉลี่ย 43.30 ล้านฟอง จึงไม่เกิดภาวะขาดแคลน สำหรับการปรับราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มของสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ จากฟองละ 3.20 บาท เป็น 3.40 บาท สาเหตุหลักมาจากสภาพอากาศร้อนจัดตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. ส่งผลให้แม่ไก่ให้ผลผลิตไข่น้อยลง และมีขนาดไข่เล็กลง จนเกษตรกรมีต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้น

สถานการณ์ไข่ไก่ขนาดใหญ่ เบอร์ 0-2 มีสัดส่วน 60% และไข่ไก่ขนาดเล็กเบอร์ 3-5 มีสัดส่วน 40% เทียบกับสภาพอากาศปกติ ไข่ไก่ขนาดใหญ่ เบอร์ 0-2 มีสัดส่วน 70% และไข่ไก่ขนาดเล็ก เบอร์ 3-5 มีสัดส่วน 30% โดยกรมฯ ได้ช่วยดูแลโดยจัดจำหน่ายไข่ไก่ราคาต่ำกว่าท้องตลาด ผ่านรถโมบายธงฟ้า และงานธงฟ้าราคาประหยัด ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงภูมิภาค เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน