ซีพีเอฟ เผยผลดำเนินงาน Q1/68 กำไรสุทธิ 8,549 ล้านบาท โต 6 เท่า ทะลุเป้า

2025-05-15 IDOPRESS

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เผยผลดำเนินงาน Q1/68 กำไร 8,549 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 642% หรือโต 6 เท่า จากความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ และความเคร่งครัดของระบบป้องกันโรคในฟาร์มที่เข้มงวด ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาชีวอนามัยท่ามกลางโรคระบาด สะท้อนศักยภาพผู้นำเกษตรอาหารที่ให้ความสำคัญด้านประสิทธิภาพ

🔊 ฟังข่าว

⏸️ หยุดชั่วคราว

🔄 เริ่มใหม่

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า การที่บริษัทมีผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปีนี้ดีเด่นขึ้น มาจากการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ประกอบกับการระบาดของโรคสัตว์โดยเฉพาะไข้หวัดนกซึ่งกระจายไปหลายประเทศทั่วโลก และโรค ASF ของสุกรที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ มีผลทำให้จำนวนไก่และสุกรมีน้อยกว่าปกติ ตลอดจนราคาวัตถุดิบอยู่ในฐานที่ยังไม่สูงเกินไป ทำให้ผลการดำเนินงานดีกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ซีพีเอฟลงทุนไว้มากกว่า 10 ประเทศ

ผลประกอบการที่โดดเด่นในไตรมาสแรกปีนี้ เป็นบทพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของทีมงานทั่วโลกและความสามารถในการปรับตัวอย่างยั่งยืนในทุกสภาพแวดล้อม การลงทุนของบริษัทที่เน้นเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตลอดจนการนำระบบ IT ที่นำมาใช้ในเรื่องการบริหารจัดการ รวมทั้งความมุ่งมั่นในการยกระดับความปลอดภัยทางชีวภาพและการป้องกันโรคในการเลี้ยงสัตว์อย่างเป็นระบบ ซึ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรตลอดห่วงโซ่อุปทาน บริษัทจึงสามารถรักษาเสถียรภาพในการผลิตและสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง

ประธานคณะผู้บริหาร กล่าวเสริมว่า ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟในปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่บริษัทได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และอุตสาหกรรมมีการปรับสมดุลจากความท้าทายในอดีต ในส่วนของปัญหาความปั่นป่วนจากเรื่องภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ได้มีผลกระทบกับซีพีเอฟ เพราะซีพีเอฟมีการลงทุนในธุรกิจอาหารพื้นฐานที่ราคาไม่แพง มีการผลิตอยู่ในกว่า 10 ประเทศและขายในประเทศนั้นเป็นหลัก ขณะที่บริษัทพึ่งพาการส่งออกประมาณ 4-5% โดยการส่งออกส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศในเอเซีย เช่น ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศยุโรปเป็นหลัก มีการส่งออกไปสหรัฐฯ ประมาณ 0.3% เท่านั้น

ทั้งนี้ จากภาวะโรคระบาดที่เกิดขึ้นในการเลี้ยงสัตว์ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงโควิดที่กลับมาในช่วงนี้ ผู้บริหารทุกคนได้ให้ความสำคัญด้านการบริหารงานภายใต้แนวทางการบริหารความเสี่ยงรอบด้าน ลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มที่ดีที่ชัดเจน และที่สำคัญได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการผลิต การป้องกันโรคระบาดตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาชีวอนามัยในการดำเนินงานอย่างครอบคลุม .

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ล่าสุด

‘ธนจิรา’ ทำรายได้ไตรมาสแรก 485 ล้านบาท

05-16

‘ดร.สมประวิณ’ เตรียมลงสมัครผู้ว่าแบงก์ชาติ เผยเหตุลาออกไทยพาณิชย์

05-16

ส่องโปรโมชั่น MONEY EXPO 2025 สินเชื่อบ้าน-รถ-เงินฝาก 15-18 พ.ค.68

05-16

สุดยอด 18 SME ไทยคว้ารางวัลจากงาน ‘เซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอียั่งยืน 2025’

05-16

“เผ่าภูมิ” ชู “สลาก กอช.” ช่วยรับมือสังคมสูงวัยอย่างเท่าเทียม

05-16

ไทยเจอเศรษฐกิจสั่นคลอน ผู้มีงานทำลดลง 2 แสนคน

05-16

เปิดมุมมองความสัมพันธ์ค่าเงินบาท-ทองคำ นโยบายการค้าไม่แน่นอน

05-16

แรงขายปรับพอร์ตฉุดดัชนีหุ้นวันนี้ลบ 22.22 จุด

05-16

เฟรเซอร์ส อัดงบ 3,000 ล้านบาท ขยายพื้นที่โรงงานคลังสินค้า

05-16

‘เต็ดตรา แพ้ค’ ผุดศูนย์ CIC หาไอเดียคลอดเครื่องดื่มใหม่ป้อนตลาดไทย

05-16

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 โพสต์ตอนเช้าไทย      ติดต่อเรา   SiteMap