ธปท.-แบงก์-ศปอท.-ปปง.-บช.สอท. ปรับลดเวลาปลดระงับธุรกรรมคนบริสุทธิ์ใน 4 ชั่วโมง เร่งแนวทางใหม่ จำกัดตรวจเส้นเงินเท่าที่จำเป็น แฉบัญชีม้าทำเนียนโทรฯ ขอปลดด้วย

วันที่ 15 ก.ย. ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. หารือกับศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และธนาคารพาณิชย์ เห็นชอบร่วมกันที่จะปรับแนวทางการระงับธุรกรรมและกระบวนการปลดการระงับ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์

ทั้งนี้ ในส่วนของภาคธนาคาร ธปท. ได้ให้ธนาคารพาณิชย์ ลดระยะเวลาการปลดการระงับให้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ถึง 72 ชั่วโมง หรือ 7 วัน แล้วแต่กรณี ตามที่กำหนดใน พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

โดยธนาคารพาณิชย์จะตรวจสอบข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับจาก ศปอท. โดยเร็วที่สุด ไม่เกินกว่า 2 ชั่วโมง วันละ 3 รอบต่อวัน ช่วง 11.00 น.,15.00 น. และ 19.00 น. เพื่อส่งกลับให้ ศปอท. ประมวลผลไม่เกิน 2 ชั่วโมง และนำส่งกลับมายังธนาคารพาณิชย์ เพื่อปลดระงับธุรกรรม

หลังจากนั้นธนาคารจะแจ้งลูกค้าทันที ภายใน 4 ชั่วโมง สามารถปลดระงับบัญชีได้ และเร่งปรับการแจ้งผู้ถูกระงับธุรกรรมให้มีความชัดเจน ถึงลักษณะการถูกระงับและสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบนั้นต้องทำต่อและให้เป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ภายในเดือน ก.ย. ธปท. ร่วมกับธนาคารปรับแนวทางใหม่ จะไม่กวาดเส้นเงินบัญชีม้าเข้ามาเกินความจำเป็น โดยยอมรับว่า การตรวจสอบเส้นเงินของมิจฉาชีพอาจมีผลกระทบกับผู้ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง แต่จะทำอย่างไรให้ปลดอย่างรวดเร็ว และยืนยันให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และกวาดเท่าที่จำเป็น และแจ้งว่าถูกระงับเท่าไร

ส่วนการอายัดบัญชีจะแตกต่าง เพราะจะไม่สามารถใช้บัญชีได้ มาจากเมื่อตรวจสอบว่าเป็นบัญชีม้าและเกี่ยวข้อง มีหมายอายัดจากตำรวจ โดยกระบวนการถ้าอายัดบัญชี ต้องแจ้งปลดอายัดกับตำรวจ และถ้าส่งเรื่องปลดอายัดมาธนาคาร ธนาคารจะปลดให้ ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่ารับทราบเรื่องปลดอายัดล่าช้า อยู่ระหว่างธปท.หารือตำรวจในการปรับกระบวนการ

อย่างไรก็ตามการโดนอายัดบัญชี ถ้าพบว่าเป็นบัญชีม้าดำ ม้าเทาเข้ม จะยกระดับบัญชีเป็นระดับบุคคล และถูกอายัดบัญชีทุกธนาคาร และอาจไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ด้วย

“จากกรณีที่พ่อค้าแม่ค้าไม่รับสแกนรับเงินโอนนั้น ธปท. ยืนยันยังไม่เห็นความผิดปกติ อยากให้เห็นว่าถ้าคนที่สุจริตจะได้รับการปลดรวดเร็ว หรือไม่ได้รับผลกระทบ และตอนนี้การใช้พร้อมเพย์ยังปกติ แต่ยอมรับมีผลกระทบบ้าง พยายามทำให้ปลอดภัยและสะดวก เชื่อว่าปลดได้เร็ว ไม่กวาดเข้ามามาก หวังว่าร้านค้าจะเชื่อมั่นมากขึ้น ส่วนสัญญาณที่เห็นในโซเชียลที่ให้ไปถอนเงิน แต่ความจริงในระบบไม่เห็นผิดปกติ เช่น โอนเงิน ถอนเงินสด แต่อาจเพิ่มขึ้นบ้างในบางพื้นที่ ซึ่งสภาพคล่องธนาคารสูง เตรียมรองรับเงินสดให้เพียงพอ ไม่ได้แตกต่างไปจากปกติไม่ได้เป็นประเด็นอะไร”

นายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการระงับธุรกรรมเฉลี่ย 10,000 บัญชีต่อสัปดาห์ และจากที่ได้ทดสอบขั้นตอนโดยมีผู้โทรฯ ติดต่อเข้ามาแจ้งขอปลดระงับเมื่อวันที่ 14 ก.ย. กว่า 100 เคส แต่มีผู้ที่ได้รับการปลดเป็นผู้สุจริตเพียง 11 เคสเท่านั้น

ในส่วนที่เหลือเป็นบัญชีต้องสงสัย โดยมีผู้โทรฯ เข้ามาคาดว่าเป็นบัญชีม้า เนื่องจากสอบถามข้อมูลทั้งเลขบัญชี และบัญชีธนาคารใด ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำไปขยายผลต่อ และบางเคสยืนยันว่าเป็นบัญชีม้า เพราะรับเงินจากเหยื่อ และก่อนหน้านี้ 4-5 เดือนเปิดบัญชีมา ไม่มีการทำรายการบัญชี

“เมื่อถูกระงับธุรกรรม ธนาคารจะแจ้งลูกค้า ช่วงระงับธุรกรรมเงินเป็นจำนวนเงินเท่าไร และระงับจำนวนกี่วัน อาจเป็นเอสเอ็มเอส หรือโมบายแบงก์กิ้งดูแต่ละธนาคารว่าช่องทางใด แต่ไปถึงลูกค้าแน่นอน เมื่อถูกระงับ โทร. 1441 กด 2 บอกชื่อธนาคาร เลขบัญชีที่ถูกระงับ และบัตรประชาชน รวมถึงคนที่ไม่ได้โทรฯ มาขอปลด หลังจากนั้นอาจนำข้อมูลนี้เข้าด้วยเพื่อให้ปลดได้เร็วขึ้นกว่า 3 วัน”