ธปท.-คลัง-แบงก์ ผนึกดึง SAM-อารีย์ เอเอ็มซี รับซื้อหนี้ต่ำแสน เป้าแรกกว่า 2 ล้านคน คาดเริ่มต้นปี 69 ย้ำคนต้องไม่เสียวินัยการเงิน

วันที่ 10 ต.ค. นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. อยู่ระหว่างหารือกระทรวงการคลัง และสมาคมธนาคารไทย เพื่อออกมาตรการแก้หนี้ประชาชนที่มีหนี้ด้อยคุณภาพ หรือหนี้เสียเอ็นพีแอลต่ำกว่า 1 แสนบาท ที่มีอยู่ทั้งหมด 3 ล้านคน ผ่านการรับซื้อของบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือเอเอ็มอี มาบริหารหนี้เสียนี้ต่อ ซึ่งจะเป็นมาตรการเฉพาะจุด ตั้งเป้าหมายจะช่วยได้กว่า 2 ล้านคนในช่วงแรก โดยจะหารือกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า และต้องได้ข้อสรุปในเดือน ต.ค. นี้ หลังจากนั้นจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และคาดว่าจะเริ่มได้ต้นปี 69

สำหรับแนวทางการใช้เอเอ็มซีรับซื้อหนี้เสียต่ำกว่า 1 แสนบาทนั้น จะถูกแบ่งอออกเป็น 4 กลุ่ม คือ หนี้เสียธนาคารพาณิชย์มีหนี้ที่ต่ำกว่า 1 แสนบาทมีอยู่ 7 แสนคน,หนี้เสียนอนแบงก์ภายใต้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ 8 แสนคน,หนี้เสียกลุ่มแบงก์รัฐ 8 แสนคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะช่วยก่อนรวมกว่า 2 ล้านคน และที่เหลือเป็นหนี้เสียนอนแบงก์ ซึ่งจะเป็นเฟสถัดไป

ทั้งนี้ รูปแบบจะให้บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM รับซื้อหนี้มาบริหารในกลุ่มหนี้ธนาคารพาณิชย์และนอนแบงก์ภายใต้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยจะปรับ SAM มาเป็น Social AMC

ส่วนการรับซื้อหนี้ของกลุ่มแบงก์รัฐ จะทำผ่านบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ หรือ อารีย์ เอเอ็มซี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างธนาคารออมสิน กับ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM โดยยืนยันไม่มีการจัดตั้งเอเอ็มซีแห่งชาติ และมาตรการที่ออกจะต้องรักษาวินัยคนเป็นหนี้ จะต้องกำหนดกรอบหนี้ที่เกิดขึ้นตามที่กำหนด แต่ไม่ใช่เป็นหนี้เสียในอนาคต

ขณะที่การแก้หนี้ผ่านเอเอ็มซี ยืนยันไม่ต้องแก้กฎหมาย ใช้งบประมาณจากวงเงินที่เหลือจากมาตรการคุณสู้เราช่วย ส่วนจะเป็นเท่าไรยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา โดยในปลายทางต้องการให้หนี้ครัวเรือนลดลงได้รวดเร็ว สุดท้ายทุกคนก็อยากให้ลดลงมาอยู่ที่ 80% ของจีดีพี

“การแก้หนี้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้ความสำคัญมาก และตรงกับภารกิจแบงก์ชาติ ซึ่งเป็นตัวอย่างมาตรการเฉพาะจุด จะดูกลุ่มไหนที่ทำได้ให้เกิดขึ้นได้เร็ว และช่วยได้ปริมาณมาก ถ้าทำได้หมดพยายามช่วยทุกคน แต่ต้องมั่นใจว่าจะต้องไม่คนเสียวินัยการเงิน ซึ่งตอนนี้จะต้องดูว่าใช้เงินเท่าไร ตรงไหน โอนหนี้อย่างไร ราคาเท่าไร”

นายวิทัย กล่าวว่า ธปท. เวลาจะออกมาตรการต้องเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของสังคม ประชาชน ต้องเข้าใจปัญหา อยู่ใกล้ชิดปัญหา ใกล้ชิดประชาชนและสังคม โดยมาตรการที่ออกมาต้องมั่นใจว่าช่วยเหลือสังคม และต้องรักษาเสถียรภาพ สิ่งที่จะออกมาต้องเป็นมาตรการเฉพาะจุด เช่น ที่ผ่านมามาตรการคุณสู้เราช่วย ซึ่งช่วยคนได้เยอะมาก

หลังจากนี้จะมีมาตรการเพิ่มเติม พร้อมให้ความสำคัญเพื่อเสริมนโยบายการเงิน ขอย้ำว่าเป็นมาตรการเสริม ควบคู่ออกนโยบายการเงินอย่างดอกเบี้ยนโยบาย เชื่อว่าทยอยออกมาและช่วยคนได้มาก และแก้ปัญหาให้กับประชาชน ยืนยันจะทำให้เยอะขึ้นและแก้ปัญหาให้มากขึ้น